ประเภทของเส้นใยผ้า

ประเภทของเส้นใยผ้า

 

ในที่นี้เจ้าของกระทู้จะขอแบ่งผ้าออกเป็นสองแบบก่อนนะครับ

1 คือ ผ้าใยธรรมชาติ

2 คือ ผ้าใยสังเคราะห์

 

แบบที่หนึ่ง ‘ผ้าใยธรรมชาติ’ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าสร้างจากวัตถุดิบที่มีในธรรมชาติแน่นอน แม้จะไม่ยืดหยุนเบาสบายแบบใยสังเคราะห์ แต่ก็ไม่เป็นพิษ ไม่มีสารเคมี และที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยครับ

ผ้าใยธรรมชาติแบ่งออกเป็นอีก 4 ประเภทย่อย ซึ่งแต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน

 

– ผ้าไหม (silk) ธรรมชาติอย่างหรูหรา

เป็นผ้าที่สร้างจากเส้นใยของรังไหม เอกลักษณ์คือ เนื้อผ้ามีแสงแวววาวเป็นมันเลื่อม ผ้าฟูไม่เรียบ อ่อนนุ่มมีน้ำหนัก เนื้อผ้าเย็บจีบจัดทรงคงทน แต่เนื่องจากเป็นผ้าเนื้อแข็งมันจึงยับง่ายด้วยเช่นกัน

ไหมเป็นชนิดของผ้าสำคัญของไทย เนื่องจากเป็นผ้าที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงตั้งโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพไหมไทยด้วยพระองค์เอง จนเกิดเป็นยี่หอไหมไทย คุณภาพดีเป็นมารตฐาน โด่งดังไปทั่วโลก ได้แก่ นกยูงสีทอง (Royal Thai Silk) นกยูงสีเงิน (Classic Thai Silk) นกยูงสีน้ำเงิน (Thai Silk) และ นกยูงสีเขียว (Thai Silk Blend)

 

– ผ้าฝ้าย (cotton) ธรรมชาติอย่างนุ่มนวล

ใยฝ้ายได้มาจากส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ดฝ้าย หรือที่เรียกว่า ปุยฝ้าย ผ้าฝ้ายมีความโดดเด่นตรงเนื้อที่นุ่ม โปร่งสบาย ความหนาของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิต หากถักทอบางก็จะแห้งง่าย ระบายความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับใส่ในเมืองไทยหรือประเทศที่มีอากาศร้อน ถ้าถักทอหนาก็สามารถนำมาซับน้ำ ห่มนอน ใช้เป็นผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัว

ฝ้ายมีเอกลักษณ์ในความสะดวกสะบาย ใช้งานง่าย คงทน รีดง่าย ทำความสะอาดดี ดูดน้ำ ถึงแม้ฝ้ายไม่มันเงาแบบผ้าไหม แต่สีเรียบดูสบายตา

 

– ผ้าขนสัตว์ (wool) ธรรมชาติอย่างสง่างาม

ขนตามธรรมชาติที่สามารถนำมาถักทอเป็นแผ่นผ้า เช่น ขนแกะ แพะ กระต่าย กระรอก เสือ ฯลฯ ผ้าขนสัตว์เป็นฉนวนความร้อน ทำให้ผู้ใส่ไม่ร้อน แถมยังดูดความชื้นได้ดี ด้วยความที่มันเป็นธรรมชาติมากที่สุดในบรรดาผ้าด้วยกัน มันจึงมีราคาแพงและยังดูแลรักษายาก ขนสัตว์สามารถหดเมื่อเปียก และเชื่อมเป็นแผ่นเมื่อเจอความร้อนชื้น การดูแลรักษาจึงต้องส่งให้ร้านหรือผุ้มีความชำนาญดูแล ยกวเว้นจะมีเครื่องหมายว่า ซักเองได้

การดูแลผ้าขนสัตว์ใช้วิธีปัดถูด้วยแปรงเบาๆ ไม่นิยมซักบ่อยๆ

 

– ผ้าลินิน (linen) ธรรมชาติอย่างแข็งแกร่ง

ผลิตจากใยของต้นป่าน เป็นเส้นใยธรรมชาติที่แข็งแรงที่สุด สามารถทอผ้าได้ตั้งแต่บางมากไปจนถึงหนาสุดๆ ผ้าเงามันแต่แข็ง ดูดซับน้ำได้ดี การดูแลรักษาต้องหลีกเลี่ยงการพับ เพราะผ้าจะแข็งตัวและหักได้ ควรม้วนใส่แกนผ้าไว้ หรือจัดเป็นชุดให้อยู่ทรง การทำความสะอาดสามารถซักด้วยสบู่หรือผงซักฟอกได้เลย แต่เวลารีดควรจัดจีบให้เรียบร้อย เพราะผ้าลินินเป็นผ้าเนื้อแข็ง แห้งง่าย ถ้าใช้ไฟแรงรีดผ้าจะหยาบและเป็นรอยง่าย ควรใช้ความร้อนปานกลางและพรมน้ำบ่อยๆ

 

 

จบไปแล้วกับ 4 ผ้าธรรมชาติ มาดูฝั่งผ้าใยสังเคราะห์บ้างดีกว่า

 

 

แบบที่สอง ‘ผ้าใยสังเคราะห์’ ผลงานของมนุษย์ซึ่งใช้สารเคมีและวัตถุดิบทางธรรมชาติเข้าด้วยกัน มีความสามารถหลากหลาย ประยุกต์ปรุงแต่งจนเหมาะสมกับวิถีชีวิตของพวกเรา ถือว่าเป็นผ้าที่ใช้งานง่ายและสะดวกสบายเลยล่ะ

ผ้าใยสังเคราะห์แบ่งออกเป็นอีก 3 ประเภทย่อย ซึ่งแต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน

 

– ผ้าโพลิเอสเตอร์ (Polyester) สังเคราะห์เพื่อเลียนแบบ

เป็นผ้าที่เหมือนส่วนผสมของฝ้ายและขนสัตว์ รู้จักกันในอีกชื่อคือขนเทียม เพราะสามารถใช้แทนผ้าขนสัตว์ได้สำหรับนักออกแบบเสื้อผ้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่า เนื้อผ้าดูดน้ำน้อย เบาสบาย ยับยาก สามารถรีดและคงรูปได้ถาวร แต่ก็มีปัญหาเรื่องอายุการใช้งาน เมื่อผ่านไปนานผ้าจะมีขุย และถ้าเจอความร้อนสูงอย่างเตารีดหรือไฟ ผ้าจะเป็นรอยไหม้และดำ เรียกได้ว่าบอบบางต้องดูแลกันเลยทีเดียว

 

– ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex) สังเคราะห์เพื่อทนทาน

สร้างจากใยยางสังเคราะห์ที่รู้จักกันในนาม Lycra ผ้าสแปนเด็กซ์สามารถดึงยืดได้ 6 – 7 เท่าของความยาวเดิม สามารถทนรับแรงเสียดทานสูง และระบายอากาศหรือแม้กระทั้งเหงื่อได้ดี จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ทำเสื้อผ้านักกีฬาหรือผู้ที่ใช้การเคลื่อนไหวสูง เช่น กางเกงพละ นักแอโรบิก ฯลฯ

เนื่องจากคุณภาพในการยืดหยุ่นสูง และสามารถดูแลรักษาง่าย เพียงแค่การซักธรรมดาก็เอาอยู่ ทำให้ผ้าชนิดนี้นิยมใช้อย่างแพร่หลายในกีฬาการแข่งกันอย่าง ปั่นจักรยานวิบาก

 

– ไนลอน (Nylon) สังเคราะห์เพื่อประโยชน์

ผ้าที่ถูกใช้ครั้งแรกเป็นขนแปรงสีฟัน มีความยืดหยุนสูง นุ่มและเบา สามารถนำมาประยุกต์ได้หลายแบบ เช่น เป็นถุงน่อง แปรงขัดห้องน้ำ หรือแม้แต่เสื้อผ้า ผ้าไนลอนมีข้อดีตรงที่ประโยชน์หลากหลาย และยังไม่ติดไฟอีกด้วย ยามเมื่อไฟไหม้มันจะจับตัวเป็นก้อนพลาสติกแข็ง จากนั้นไฟจะมอดไปเอง

 

 

เห็นได้ขัดแล้วว่าใยผ้ามีหลายประเภท หวังว่าทุกคนจะเข้าและจดจำผ้าแต่ละประเภทได้นะครับ

ที่อธิบายมาทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเจตนาจะเปรียบเทียบว่าผ้าไหนดีกว่าใคร ใยอะไรดีสุด สวยสุด

เพราะพวกเธอก็เหมือนผู้หญิง ยามเมื่ออยู่ถูกที่ถูกสถานการณ์ เธอก็จะงดงามไม่แพ้ใครๆ วันนี้คุณรู้จัก ‘ประเภทของใยผ้า’ กันไปแล้ว

 

ตอนหน้ามาติดตามกันต่อได้ใน ‘ประเภทของการทอผ้า’ รูปแบบต่างๆกันบ้าง

 

คุณเสกสรรค์ เกิดโภคา ฝ่ายบริการลูกค้า
โทร 086-4015853_084-4144769

(เปิดรับสาย 10.00 น.ถึง 21.00 น.)

ID Line:sekgood 24ช.ม.
เว็บไซต์ที่
http://salesiam.com